อัมเรศ เทพมา
บทคัดย่อ
ประเทศญี่ปุ่นมีพัฒนาการด้านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นด้วยการอนุรักษ์แบบหลังเดียวจนขยายขอบเขตที่ใหญ่ขึ้นเป็นกลุ่มอาคาร โดยใช้วิธีการกำหนดขอบเขตทางกายภาพซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกำหนดขอบเขตทางกายภาพเป็นวิธีการที่สำคัญ ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งเน้นถึงวิธีการกำหนดขอบเขตทางกายภาพในพื้นที่อนุรักษ์กลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างดั้งเดิมทรงคุณค่าของประเทศญี่ปุ่นจำนวน 5 เมือง ผลการศึกษาพบว่าได้มีขั้นตอนของการกำหนดขอบเขตพื้นที่อย่างเป็นระบบใน 3 ระดับ คือ ขอบเขตพื้นที่สำรวจ ขอบเขตพื้นที่เสนอขึ้นทะเบียนและขอบเขตพื้นที่เขตอนุรักษ์สถาปัตยกรรม โดยขอบเขตพื้นที่สำรวจจะมีความครอบคลุมบริเวณกว้างกว่าขอบเขตอื่นๆ และพบว่ามีการกำหนดพื้นที่เขตอนุรักษ์สถาปัตยกรรมนอกขอบเขตพื้นที่สำรวจบางส่วนแต่ไม่ได้เป็นสัดส่วนที่มีจำนวนมาก ทั้งนี้แนวเส้นที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตในแผนที่ทั้งสามประเภทใช้การอ้างอิงทางกายภาพจากแนวเส้นถนน เส้นแม่น้ำ เส้นแนวแปลงเกษตร เส้นสันเขาที่สามารถกำหนดได้ด้วยการเดินสำรวจยกเว้นบางกรณีที่มีแนวเส้นขอบเขตพาดผ่านบนพื้นทะเลที่ไม่สามารถเดินสำรวจได้ ซึ่งสันนิษฐานว่าการกำหนดขอบเขตจะเป็นการกำหนดแนวขอบเขตด้วยเส้นบนแผนที่ดังเช่นกรณีของเมืองอิเนะ เป็นต้น
Abstract
Architectural Conservation has been developed continuously in Japan. From conserving one building at a time in the beginning expanded into a group of buildings, using physical boundaries scoping method. This indicates that physical boundaries scoping is an important method, therefore, this study focuses on how to define the physical boundaries of the conservation areas, groups of architectural buildings, and buildings of five cities in Japan. The results showed that the process of determining the scope were systematically set in 3 levels which are the boundary survey, the proposed scope for registration, and the scope of Architectural Conservation Area. The scope of the survey area covered a wider area than other areas and found that some of the architectural conservation areas were set outside the boundary survey but not in a significant proportion. The lines used to define the boundaries in all three types of map were physically referred from road lines, river lines, farmer lines, and ridge lines which can be determined by the survey walk. Except in some cases where the boundary line lied over the sea which cannot be explored on foot, this assumed that the boundary line was defined by lines on a map such as the case of Ine-city.
นำเสนอในที่ประชุมวิชาการจำนวน 1 ครั้ง